“”
วัดสระบัวแก้ว ตั้งอยู่ที่บ้านวังคูณ ต.หนองเม็ก อ.หนองสองห้อง สิมสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2474 สมัยรัชการ 7 โดยพระครูวิบูลย์พัฒนยุกต์ (หลวงพ่อผุย) เจ้าอาวาสในขณะนั้น ได้นำแบบวัดบ้านยาง อ.บรบือ จ.มหาสารคาม ซึ่งเป็นบ้านเกิดของท่าน เป็นแบบในการก่อสร้าง ช่างแต้มคือ นายกิ นายทองมา นายน้อยบ้านโศกธาตุ และนายพรหมา จาก อ.วาปีปทุม จ.มหาสารคาม ร่วมเขียนด้วย สมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ สถานเอกอัครราชทูตเนเธอร์แลนด์ นายกร ทัพพะรังสี ธนาคารเอเชียฯ บริษัทมลิฟ้าฯ หน่วยราชการจังหวัดขอนแก่น และประชาชน ร่วมกันบูรณปฏิสังขรณ์ สิมหลังนี้จนแล้วเสร็จและสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยานิวัฒนาฯ เสด็จประกอบพิธียกยอดผาสาท(ปราสาท)สิน เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2544
จุดเด่นของวัดแห่งนี้คือ ภาพจิตรกรรมและประติมากรรม ตรงเชิงบันไดทางขึ้นสู่โบสถ์ ที่เป็นสิงห์หมอบทั้งซ้ายและขวา ด้านหน้าสิงห์ทั้งสองมีรูปปั้นคนนั่งเหยียดเท้า รูปปั้นทั้งสองล้วนเป็นฝีมือของหลวงพ่อผุย พระอุปัชฌาย์ วัดสระบัวแก้ว
ส่วนผนังของโบสถ์แห่งนี้ก่ออิฐถือปูน บริเวณภายในและภายนอกผนังทั้งสี่ด้าน จะปรากฏจิตรกรรมฝาผนัง เรื่องราวเกี่ยวกับวิถีชีวิตของผู้คน ชาดก สวรรค์ นรก หรือนิทานพื้นบ้าน เป็นต้น มีการแบ่งองค์ประกอบของภาพออกเป็นตอน ๆ โดยช่างแต้ม จะใช้เส้นแถบหรือสินเทาเป็นตัวแบ่งเรื่อง ซึ่งโดยทั่วไปแล้วฮูปแต้มอีสานมักไม่ปรากฏว่ามีสินเทา
สินเทานี้มีรูปร่างเหมือนสายฟ้าแลบ สามารถเห็นได้ในงานจิตรกรรมฝาผนังสมัยกรุงศรีอยุธยา และต้นกรุงรัตนโกสินทร์ สิ่งที่สะดุดตา และเกิดความประทับใจเป็นพิเศษสำหรับฮูปแต้ม วัดสระบัวแก้ว คือ ช่างแต้มดูออกจะมีอิสระเสรี สามารถที่จะแสดงฝีมือของตนได้อย่างเต็มที่ต่อการเขียนภาพต้นไม้ ใบไม้ และภาพสัตว์นานาชนิด ซึ่งลักษณะนี้จะคล้ายกับงานจิตรกรรมตะวันตก ในสมัยอิมเพรสชั่นนิสม์สังเกตได้จากฝีแปรงการแตะแต้ม ส่วนสีที่ใช้จะเป็นสีเหลือง คราม ดินแดง เขียว ฟ้า ดำ