“”
วัดซูซอนจิ (Chusonji Temple) ตั้งอยู่ในอิวาเตะตอนล่างและเป็นดั่งประตูที่เปิดสู่ความตระการตาของโทโฮคุและแดนญี่ปุ่นในประวัติศาสตร์ เป็นวัดใหญ่และมีผู้คนรู้จักมากที่สุดในภูมิภาคโทโฮกุ สร้างเมื่อปี ค.ศ.850 โดยพระเซนจิงะกุ ไทชิ หรือหลวงพ่อเอ็นนิน ต่อมา ฟูจิวาระ คิโยฮิระ(Fujiwara Kiyohira) ได้เข้าไปบูรณะซ่อมแซมใหม่โดยใช้เวลากว่า 15 ปี จนกลายเป็นวัดที่ใหญ่ที่สุดในโทโฮกุและเป็นสถานที่แรกในโทโฮคุที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นมรดกโลกเมื่อปี ค.ศ. 2011 ทำให้ฮิไรสุมิเป็นจุดท่องเที่ยวที่ห้ามพลาดถ้าได้เดินทางมายังตอนเหนือของโตเกียว ในบรรดาวัด สวน และโบราณสถานต่าง ๆ มากมายที่ทำให้ฮิไรสุมิเป็นมรดกระดับโลกนั้น วัดที่ชื่อว่าชูซอนจิมีชื่อเสียงมากที่สุดและเป็นจุดเริ่มต้นการเที่ยวเมืองที่ดีที่สุด มีหมู่ศาลาอาคารอันงดงามอยู่กว่า 300 หลัง แต่น่าเสียดายสถาปัตยกรรมสำคัญหลายหลังได้ถูกทำลายลงจากเหตุสงครามหรือไม่ก็เกิดเพลิงไหม้
เมื่อลงรถเมล์ตรงป้ายปากทางเข้าวัด ต้องเดินขึ้นเนินตามทางเดินที่เรียกว่า Tsukimizaka เข้าไปประมาณ 560 เมตรจึงจะถึงศาลาหลังใหญ่ (Hondo) แต่ระหว่างทางก็มีศาลาหลังเล็กๆ ให้แวะชม
ศาลาฮอนโดะ เป็นศาลาวัดหลังใหญ่เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปเก่าแก่แกะสลักจากไม้ 3 องค์ใหญ่ หุ้มด้วยทองจนองค์พระดูเหลืองอร่าม ตรงข้ามกันเป็น "ซันโกโสะ" (Sankozo) หอเก็บสมบัติ ซึ่งต้องจ่ายค่าผ่านประตูเข้าไปชมสมบัติของตระกูลฟุจิวาระและสมบัติสำคัญของวัดกว่า 3,000 ชิ้น อาทิเช่น พระพุทธรูปองค์ใหญ่สูง 3 เมตร เจ้าแม่กวนอิมพันกรสูง 2 เมตร ดอกบัวบานที่ก็บรักษาให้คงสภาพไว้ในก้อนเรซิน เป็นต้น หลายชิ้นได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นสมบัติสำคัญของชาติ
ศาลาทองคอนจิกิโดะ (Konjikido) สุดยอดของที่นี่ต้องยกให้ "คอนจิกิโดะ" หรือศาลาทองรูปร่างหน้าตาคล้ายศาลาวัดคินคะคุจิหรือวัดทองในเกียวโต สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1124 มีศาลาคอนกรีตสร้างครอบไว้อีกชั้นหนึ่งเพื่อป้องกันความเสียหายจากลมฟ้าอากาศ โดยศาลาทองคำที่ว่านี้ถือเป็นงานฝีมือชั้นสูงของช่างในสมัยนั้น เพราะใช้ฝีมือในการลงรักปิดทองประดับมุกและตกแต่งลวดลายอลังการเพื่อใช้เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปทองคำหลายองค์